ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust : REIT)
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust : REIT) เป็นเครื่องมือในการระดมทุน เพื่อนำเงินไปใช้หรือพัฒนาโครงการใหม่ทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนและได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมากเท่ากับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง และยังได้รับการบริหารจัดการโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอีกด้วย
สรุปหลักเกณฑ์
สถานะและโครงสร้าง
REIT ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล แต่เป็นกองทรัพย์สินที่ถือกรรมสิทธิ์โดยทรัสตี
ทรัสตีมีอำนาจดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สินในกองทรัสต์ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือใบทรัสต์ซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ในทรัพย์สินของกองทรัสต์
อยู่ภายใต้กฎหมายหลัก 2 ฉบับ
พระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550
พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
อสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้ามาเป็นทรัพย์สินใน REIT นั้นมี 2 ลักษณะ คือ
ซื้ออสังหาริมทรัพย์มาเป็นกรรมสิทธิ์ (freehold)
ลงทุนในสิทธิการเช่า (leasehold)
โดย REIT จะนำเอาอสังหาริมทรัพย์ไปให้เช่าเพื่อรับรายได้ค่าเช่าและจ่ายผลประโยชน์ให้แก่ผู้ถือใบทรัสต์ โดยผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager : RM) เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ผู้ลงทุน
การขออนุญาตเสนอขาย
ผู้ที่จะทำหน้าที่เป็น REIT Manager (RM) มีหน้าที่ขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์
ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)* ร่วมยื่นคำขอและรับรองความถูกต้องของข้อมูล**
กรณี RM มีการจัดการ REIT อื่นอยู่ด้วย ต้องไม่เป็นทรัพย์สินประเภทเดียวกัน (เว้นแต่เป็น REIT ที่แปลงสภาพมาจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์)
* FA ต้องอิสระจากผู้ที่จะขายทรัพย์สินให้ REIT (sponsor)
** ยกเว้นกรณี RM เป็น บลจ. และไม่มีส่วนได้เสียกับ sponsor จะไม่มี FA ร่วมยื่นคำขอก็ได้
ข้อกำหนดทั่วไป
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
ระบุทรัพย์สินที่จะลงทุน
แบ่งประเภทใบทรัสต์ออกเป็นหลายชนิดได้ โดยแบ่งตามประโยชน์ตอบแทน การคืนเงิน ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่าย
ชื่อ REIT ต้องสะท้อนลักษณะสำคัญ
REIT ต้องจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
การเสนอขายและจัดสรรหน่วยทรัสต์
เสนอขายผ่านผู้จัดจำหน่าย (underwriter)
ผู้เสนอขายสามารถกำหนดสัดส่วนหน่วยทรัสต์ที่จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนแต่ละกลุ่มได้โดยเปิดเผยไว้ในแบบ filing
ผู้ซื้อต้องชำระค่าซื้อหน่วยเป็นเงินสดหรือเทียบเท่า
ห้ามจัดสรรให้บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันเกินร้อยละ 50 ของจำนวนหน่วยที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
การเปิดเผยข้อมูลและการโฆษณา
เปิดเผยข้อมูลตามที่กำหนดในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (69-REIT)
- กรณีมีการนำเสนอประมาณการผลตอบแทน (projection)
- มีความเห็นและการวิเคราะห์ของ RM และ FA เช่น
การลงทุน
อสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมจัดหาผลประโยชน์ > 75% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของทรัสต์ ส่วนที่เหลือลงทุนในทรัพย์สินอื่น* เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง เงินฝาก ธนาคาร หน่วยกองตราสารหนี้ (ทั้งไทยและต่างประเทศ) REIT อื่น (ทั้งไทยและต่างประเทศ) หน่วยกอง 1 เป็นต้น
กรณีลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่แล้วเสร็จ
จำนวนเงินลงทุนเพื่อพัฒนา + เงินลงทุนที่ได้มาซึ่งทรัพย์สิน < 10% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของทรัสต์
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งในต่างประเทศได้
* การลงทุนในทรัพย์สินอื่น ทรัสตีจะบริหารเองหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นบริหารก็ได้
การตรวจสอบหรือสอบทาน (Due Diligence) ทรัพย์สินที่จะลงทุน
ด้านกายภาพ เช่น ทำเล สภาพทรัพย์ ทางเข้าออก อายุการใช้งาน
ด้านการเงิน เช่น track record trend ของความต้องการใช้พื้นที่ ภาวการณ์แข่งขัน สัญญาเช่าที่ติดมากับทรัพย์ การวิเคราะห์ผู้เช่า
ด้านกฎหมาย เช่น กรรมสิทธิ์ ข้อพิพาท ภาระผูกพัน ใบอนุญาตต่าง ๆ ความสามารถของคู่สัญญาในการทำนิติกรรรม ความครบถ้วนถูกต้อง และบังคับได้ตามกฎหมายของเอกสารสิทธิ หรือสัญญาที่เกี่ยวข้อง
กรณีทรัพย์สินอยู่ต่างประเทศ ต้องมีความเห็นของที่ปรึกษากฎหมายที่เชี่ยวชาญในกฎหมายของประเทศนั้นตรวจสอบความสามารถของ REIT ในการได้มาและถือครองอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายของประเทศนั้นด้วย
การกู้ยืมเงิน
กู้ได้ < 35% ของมูลค่าทรัพย์สินรวม แต่หากมี rating ระดับ investment grade กู้ยืมเงินได้ถึง 60% ของมูลค่าทรัพย์สินรวม
เป็นไปตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์
ไม่มีลักษณะเป็นหุ้นกู้ที่ไถ่ถอนเมื่อเลิกกิจการ (perpetual bond) / อนุพันธ์แฝง* / หรือเป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์
นำทรัพย์สินของ REIT เป็นหลักประกันได้
การก่อภาระผูกพันกรณีอื่นต้องเป็นเรื่องปกติในทางพาณิชย์ หรือเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกรรมประเภทนั้น
สามารถให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยได้
* ยกเว้นกรณีให้สิทธิลูกหนี้ในการชำระหนี้คืนก่อนกำหนด (callable) หรือให้สิทธิ REIT ในการเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้คืนก่อนกำหนด (puttable) มีการกำหนดดอกเบี้ยไว้แน่นอน และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขการจ่ายดอกเบี้ยที่อ้างอิงกับปัจจัยอ้างอิงอื่น (ข้อ 13/2(2) ของประกาศที่ ทจ. 49/2555)
ทั้งนี้ หากในการระดมทุนจะมีการกู้ยืมเงินจากกลุ่มทรัสตีด้วย ให้เปิดเผยข้อมูลไว้แต่แรก
การรับประกันรายได้
คาดว่าประกาศจะลงราชกิจจานุเบกษา พ.ย. 2566
ผู้รับประกันรายได้อย่างน้อย 1 รายต้องเป็นนิติบุคคล
ในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ต้องมีข้อกำหนดว่า ผู้ประกันรายได้ยอมรับผูกพันในฐานะรับประกันรายได้และในฐานะเป็น
ลูกหนี้ร่วมกับผู้เช่า
มีข้อตกลง 3 ฝ่าย ระหว่างผู้ประกันรายได้ ผู้เช่า และ REIT ว่า ในกรณีที่ผู้รับประกันรายได้ไม่ปฏิบัติตามสัญญารับประกันรายได้ ให้ถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่า
แบบ Filing ให้เปิดเผย credit rating ของผู้รับประกันรายได้ + financial highlight ที่ใช้ข้อมูลจากงบการเงิน 3 ปีย้อนหลัง (หรือเท่าที่มี) + ความเห็น/การวิเคราะห์ของ RM เกี่ยวกับความสามารถในการปฏิบัติตามสัญญาของผู้รับประกันรายได้
การจัดหาผลประโยชน์
ให้เช่า* อสังหาริมทรัพย์ โดย REIT ต้องไม่ประกอบธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล
ในกรณีที่กองทรัสต์จะให้เช่าอสังหาริมทรัพย์แก่บุคคลที่จะนำอสังหาริมทรัพย์นั้นไปประกอบธุรกิจที่กองทรัสต์ไม่สามารถดำเนินการได้เอง เช่น ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจโรงพยาบาล เป็นต้น ต้องมีข้อตกลงกำหนดค่าเช่าไว้ล่วงหน้าเป็นจำนวนที่แน่นอน และอาจกำหนดค่าเช่าที่อ้างอิงกับผลประกอบการของผู้เช่าเพิ่มเติมด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ให้เปิดเผยข้อมูลข้อตกลงดังกล่าวในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์และหนังสือชี้ชวน แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี และรายงานประจำปี
ผู้เช่าต้องไม่นำอสังหาริมทรัพย์ไปใช้ประกอบธุรกิจที่ขัดต่อศีลธรรมหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
* การให้เช่าและค่าเช่า ให้หมายความรวมถึงการให้ใช้พื้นที่ที่มีการเรียกค่าตอบแทนการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับการให้เช่าหรือให้ใช้พื้นที่ แล้วแต่กรณี และค่าตอบแทนที่ได้รับจากการดำเนินการดังกล่าว
การทำรายการกับทรัพย์สินหลัก/ผู้ที่เกี่ยวข้อง
- การได้มา/จำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์หลัก
ขนาดรายการ (X) เมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินรวม
| การดำเนินการ
|
เล็ก X < 10%
| REIT Manager เป็นผู้พิจารณา
|
กลาง 10% ≤ X < 30%
| ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของ REIT Manager
|
ใหญ่ X ≥ 30%
| ขออนุมัติผู้ถือหน่วยทรัสต์
|
ขนาดรายการ (เลือกค่าสูง)
| การดำเนินการ
|
เล็ก : ≤ 1 ลบ. หรือ ไม่เกิน 0.03% NAV
| REIT Manager เป็นผู้พิจารณา
|
กลาง : > 1 ลบ. หรือ ≥ 0.03% NAV
| ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของ REIT Manager
|
ใหญ่ : ≥ 20 ลบ. หรือ เกิน 3% NAV (แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า)
| ขอมติผู้ถือหน่วยทรัสต์
|
บุคคลที่เกี่ยวโยงกับ REIT Manager ใช้แนวทางเดียวกับบริษัทจดทะเบียน
ทรัสตีจะกระทำการใดที่ขัดแย้งกับประโยชน์ของกองทรัสต์หรืออาจทำให้ทรัสตีขาดความเป็นอิสระมิได้
เว้นแต่
เป็นธุรกรรมที่มีมาตรการหรือกลไกตรวจสอบและถ่วงดุลความเป็นธรรมของธุรกรรมดังกล่าว
ในกรณีที่เป็นการทำธุรกรรมที่เป็นการขัดแย้งกับประโยชน์ของกองทรัสต์ ต้องมีการเปิดเผยข้อมูล* ที่เกี่ยวข้องให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ทราบก่อนอย่างเพียงพอแล้ว
ถ้ามีผู้คัดค้านเกินหนึ่งในสี่ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทรัสตีจะเข้าทำ/ยินยอมให้เข้าทำธุรกรรมไม่ได้
*เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์ หรือช่องทางอื่นใดที่ผู้ถือหน่วยทรัสต์สามารถเข้าถึงข้อมูลการจะเข้าทำธุรกรรมได้อย่างทั่วถึง
การประชุมผู้ถือใบทรัสต์
องค์ประชุม ผู้ถือใบทรัสต์ไม่น้อยกว่า 25 คนหรือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ถือใบทรัสต์ทั้งหมด และต้องมีหน่วยรวมกันไม่น้อยกว่า 1/3 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด
มติทั่วไป : เกิน ½ ของจำนวนหน่วยที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
มติพิเศษ : ไม่น้อยกว่า 3/4 ของจำนวนหน่วยที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
- เรื่องที่ต้องใช้มติพิเศษ
การได้มา/จำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินหลักที่มีมูลค่าตั้งแต่ 30% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของ REIT
การเพิ่มทุน/การลดทุน ที่ไม่ได้กำหนดไว้เป็นการล่วงหน้าในสัญญาก่อตั้งทรัสต์
การเพิ่มทุนแบบ general mandate
การทำธุรกรรม RPT ที่มีขนาดตั้งแต่ 20 ลบ.หรือเกิน 3% ของ NAV แล้วแต่มูลค่าใดจะสูงกว่า
การเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์ตอบแทนและการคืนเงินให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์
การเปลี่ยนแปลงทรัสตี
การแก้ไขสัญญาก่อตั้งทรัสต์ในเรื่องที่กระทบสิทธิผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างมีนัยสำคัญ
การเลิก REIT
ข้อกำหนดอื่น
คู่มือ/แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง