​​​​​​​​​​​​การควบรวมกิจการ

รายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์​​

วัตถุประสงค์

การกำหนดให้ผู้ที่ถือครองหลักทรัพย์แตะหรือข้ามทุกร้อยละ 5 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด ต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อมุ่งหวังให้ผู้ลงทุนได้มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการมีอำนาจหรืออาจจะมีอำนาจในอนาคตจากการถือครองหลักทรัพย์แปลงสภาพและโดยที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจึงต้องถูกต้อง ครบถ้วนและทันเวลา  ​

​​
 

การกระทำที่ทำให้ต้องรายงาน

รายงานเมื่อกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้แล้วทำให้ผลรวมการถือหลักทรัพย์ของกลุ่มถึงหรือข้ามจุดที่ต้องรายงานทุกร้อยละ 5 ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง

การคำนวณสัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์

​หลักทรัพย์ที่รายงาน 

• หุ้น - หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ

• หลักทรัพย์แปลงสภาพ – หลักทรัพย์แปลงสภาพที่อาจส่งมอบการใช้สิทธิเป็นหุ้นที่ออกโดยกิจการ เช่น ใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) หุ้นกู้แปลงสภาพ (convertible debenture) ใบสำคัญแสดงสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้(transferable subscription right) และใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (derivative warrant)

เมื่อได้มาหรือจำหน่ายหุ้นจะต้องรายงานทั้งกรณีได้มาและจำหน่าย เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจควบคุมได้ สำหรับหลักทรัพย์แปลงสภาพจะรายงานเฉพาะกรณีได้มาเนื่องจากหากผู้ถือหลักทรัพย์แปลงสภาพใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจควบคุมได้ แต่กรณีจำหน่ายไม่มีหน้าที่ต้องรายงานเพราะการจำหน่ายนั้นไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจควบคุมกิจการ ทั้งนี้ จะต้องแยกคำนวณหุ้นและหลักทรัพย์แปลงสภาพ และแยกรายงานคนละฉบับ

 กำหนดระยะเวลายื่นแบบรายงาน (แบบ 246-2)

• การกำหนดวันที่ได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ (T)  
  ​
  

  ​​​​​​​​​กรณี​	​​T คือ
  ​หลักทรัพย์เดิม	วันที่สั่งซื้อขาย   ยกเว้น กรณีจำหน่ายหลักทรัพย์เพื่อตอบรับในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ให้รายงานแบบ 246-2 ภายใน 5 วัน นับแต่สิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ
  ​หลักทรัพ​ย์ใหม่​​ หุ้น ​หลักทรัพย์แปลงสภาพ	​ วันที่จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วกับกระทรวงพาณิชย์ วันที่ออกหลักทรัพย์
  ​ ​ได้มาจากมรดก	​วันลงทะเบียนการโอนหลักทรัพย์ (เปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าของ)

  ​
  

• วันที่ส่งรายงาน = T + 3 วันทำการ

ผู้ได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ 246-2 ทุกครั้งที่กลุ่มแตะหรือผ่านจุดร้อยละ 5 ของสิทธิออกเสียงของกิจการ ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้