Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ศาลอาญาพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิด 6 ราย กรณีจัดทำบัญชีหรือเอกสารเท็จและทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์สินของ DAIDO



วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557 | ฉบับที่ 182 / 2557



ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษอดีตผู้บริหารบริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ("DAIDO") 3 ราย ได้แก่ (1) นายชิซิโร ฟูคูด้า (2) นายพิศาล จรัสเลิศรังษี (3) นางสาวกานต์ชนก หรือ ณัชพร ลิขิตศิริทรัพย์ หรือ รัสรินทร์ สุรพัฒนไพศาล ในความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสาร บันทึกบัญชีไม่ถูกต้องและไม่ตรงต่อความเป็นจริง และทุจริตเบียดบังทรัพย์สินของ DAIDO รวมทั้งผู้สนับสนุนอีก 3 ราย ได้แก่ (4) บริษัท บัดเจท แมเนจเมนท์ แอนด์ ดีไซน์ จำกัด (5) นายมณเฑียร พงษ์เกียรติก้อง และ (6) นายชัย พงศ์ธนาวรานนท์ หรือนายกิตติวุฒิ อรรถวัฒนาถ

คดีนี้สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร DAIDO 3 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2548 ได้แก่ นายชิซิโร อดีตประธานกรรมการ  นายพิศาล อดีตรองประธานกรรมการรับผิดชอบฝ่ายการเงินและฝ่ายบัญชี และนางสาวกานต์ชนก หรือ ณัชพร หรือ รัสรินทร์ อดีตรองประธานกรรมการ รับผิดชอบฝ่ายโครงการของบริษัท กรณีจัดทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริงและจัดทำเอกสารเท็จในงบการเงินของ DAIDO ประจำปี 2545 และงบการเงินประจำไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2546 ทำให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับฐานะทางการเงินที่แท้จริงของ DAIDO ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83  และต่อมาพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการได้ขยายผลการสอบสวนและพิจารณาสั่งฟ้องผู้สนับสนุนเพิ่มเติมอีก 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท บัดเจท แมเนจเมนท์ แอนด์  ดีไซน์ จำกัด นายมณเฑียรและนายชัย หรือนายกิตติวุฒิ รวมทั้งเพิ่มข้อหาทุจริต ยักยอก และปลอมแปลงเอกสารตามมาตรา 307  308  311  313  315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ และมาตรา 264  268 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2557 ศาลอาญามีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 307 มาตรา 308 มาตรา 311 และมาตรา 312 (1) (2) (3)  แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ และมาตรา 264  มาตรา 268 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86  แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 มีความผิดฐานสนับสนุนในการปลอมเอกสาร  อย่างไรก็ดี เนื่องจากจำเลยทั้ง 6 รายให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยจำเลยที่ 1 มีความผิด 11 กระทง รวมจำคุก 12 ปี 66 เดือน และปรับ 1,507,500 บาท  จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิด 9 กระทง รวมจำคุกรายละ 10 ปี 54 เดือน และปรับรายละ 1,256,000 บาท  จำเลยที่ 4 มีความผิด 1 กระทง ปรับ 1,000 บาท  จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6  มีความผิดรายละ 1 กระทง จำคุกรายละ 4 เดือน และปรับรายละ 1,000 บาท   นอกจากนี้ ศาลได้พิเคราะห์พฤติการณ์การกระทำความผิด การบรรเทาผลร้ายภายหลังการกระทำความผิดและพฤติเหตุแวดล้อมแห่งคดีทุกทางแล้ว เห็นควรให้โทษจำคุกของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดรายละ 2 ปี