Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 9 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น NMG EIC และ TH



วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2567 | ฉบับที่ 8 / 2567


ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 9 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์  อินทรสงเคราะห์ (2) นายภาณุรักษ์ แสงอร่าม (3) นายเอกวิชญ์ กมลเทพา (4) นายศิร์วสิษฏ์ สายน้ำผึ้ง (5) นางสาวกรรณิดา ตั้งกิจตรงเจริญ (6) นายภควันต์ วงษ์โอภาสี (7) นายกรวิช อัศวกุล (8) นางสาวกัญจนารัศม์ วงศ์พันธุ์ และ (9) นางมะลิวัลย์ วงศ์ชินศรี กรณีสร้างราคาหุ้นจำนวน 3 บริษัท โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 33,677,137.50 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมถึงห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2560 กลุ่มผู้กระทำความผิด 9 ราย ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และ/หรือมีความสัมพันธ์ส่วนบุคคลโดยตรง หรือเชื่อมโยงกันผ่านบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขาย หุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) (EIC) และบริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TH) แล้วแต่กรณี โดยส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่สอดรับและสนับสนุนกันในลักษณะของการผลักดันราคา การจับคู่ซื้อขายระหว่างกัน หรือการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะขัดขวางการซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่น ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์และส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

1. กรณีสร้างราคาหุ้น NMG ระหว่างวันที่ 30 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2560 ผู้กระทำความผิด รวม 8 ราย ได้แก่ นายยรรยงค์ นายภาณุรักษ์ นายเอกวิชญ์ นายศิร์วสิษฏ์ นางสาวกรรณิดา นายภควันต์ นายกรวิช และนางสาวกัญจนารัศม์ ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

2. กรณีสร้างราคาหุ้น NMG ระหว่างวันที่ 21 - 24 กุมภาพันธ์ 2560 ผู้กระทำความผิด รวม 7 ราย ได้แก่ นายยรรยงค์ นายภาณุรักษ์ นายเอกวิชญ์ นายศิร์วสิษฏ์ นางสาวกรรณิดา นายภควันต์ และนางสาวกัญจนารัศม์ ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

3. กรณีสร้างราคาหุ้น EIC ระหว่างวันที่ 14 - 15 มีนาคม 2560 ผู้กระทำความผิดรวม 7 ราย ได้แก่ นายยรรยงค์ นายภาณุรักษ์ นายเอกวิชญ์ นางสาวกรรณิดา นายภควันต์ นางสาวกัญจนารัศม์ และนางมะลิวัลย์ ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

4. กรณีสร้างราคาหุ้น EIC ในวันที่ 31 มีนาคม 2560 ระหว่างเวลา 10.13.32 - 11.20.59 น. ผู้กระทำความผิดรวม 7 ราย ได้แก่ นายยรรยงค์ นายภาณุรักษ์ นายเอกวิชญ์ นางสาวกรรณิดา นายภควันต์ นางสาวกัญจนารัศม์ และนางมะลิวัลย์ ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

5. กรณีสร้างราคาหุ้น TH ในวันที่ 24 มีนาคม 2560 ระหว่างเวลา 11.48.21 -14.29.33 น. ผู้กระทำความผิดรวม 6 ราย ได้แก่ นายยรรยงค์ นายภาณุรักษ์ นายเอกวิชญ์ นางสาวกรรณิดา นายภควันต์ และนางสาวกัญจนารัศม์ ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดฐานสร้างราคาหุ้น NMG EIC และ TH ตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5(2)(3)(5) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 9 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่

ก. ให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด ดังนี้ นายยรรยงค์ จำนวน 7,737,658 บาท นายภาณุรักษ์ จำนวน 3,202,885 บาท นายเอกวิชญ์ จำนวน 3,201,066 บาท นายศิร์วสิษฏ์ จำนวน 3,919,807 บาท นางสาวกรรณิดา จำนวน 4,265,567 บาท นายภควันต์ จำนวน 3,489,821 บาท นายกรวิช จำนวน 506,704 บาท นางสาวกัญจนารัศม์ จำนวน 5,048,305.50 บาท และนางมะลิวัลย์ จำนวน 2,305,324 บาท

ข. ห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 6 ราย ได้แก่ นายยรรยงค์ นายภาณุรักษ์ นายเอกวิชญ์ นางสาวกรรณิดา นายภควันต์ และนางสาวกัญจนารัศม์ ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 30 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 60 เดือน ห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายศิร์วสิษฏ์ และนางมะลิวัลย์ ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 56 เดือน และห้ามผู้กระทำความผิดรายนายกรวิช ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน

มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดตาม ข. จะมีผลเมื่อผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หรือเมื่อครบกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารตามคำสั่งของ ก.ล.ต. ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 3/2560* แล้วแต่กรณี หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง

________________________

หมายเหตุ:

*เฉพาะผู้กระทำความผิดรายที่เคยกระทำความผิดครั้งอื่นและอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่ ก.ล.ต. อาจพิจารณาลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารตามข้อ 5(2) ประกอบข้อ 6(2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 3/2560 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560






ข่าวในหมวดเดียวกัน

ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 1 ราย กรณีซื้อหุ้น BCP โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน
ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร IEC กับพวก รวม 4 ราย ต่อ DSI กรณีทุจริตทำให้ IEC เสียหาย
ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประสานความร่วมมือ ยกระดับการทำหน้าที่กำกับดูแลตลาดทุนร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต
ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 2 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีซื้อหรือขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าก่อนทำรายการซื้อขายของกองทุน โดยใช้ข้อมูลการลงทุนของกองทุน