ก.ล.ต. ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรประกาศผล 10 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายในโครงการ FinTech Challenge ครั้งที่ 2 ซึ่งทุกทีมล้วนมีความโดดเด่นในการนำเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) มาปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดี

ก.ล.ต. ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรสานต่อโครงการ FinTech Challenge ครั้งที่ 2 โดยเปิดรับสมัครทีมเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเฟ้นหานวัตกรรมที่ตอบโจทย์หรือขจัดอุปสรรคที่เกิดขึ้นจริง ในตลาดเงิน ตลาดทุน และประกันภัยของไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ได้คัดเลือกทีม โดยพิจารณาจากความคิดสร้างสรรค์ รูปแบบธุรกิจ ความเป็นไปได้ในการพัฒนานวัตกรรม และความเป็นไปได้ในการนำไปใช้งานได้จริง ผลงานของ 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ประกอบด้วย กลุ่มที่ให้บริการช่วยผู้บริโภคตัดสินใจหรืออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการลงทุน ได้แก่ (1) Cryptovation.co - โรโบแอดไวเซอร์สำหรับการลงทุนในcryptocurrencies (2) StockRadars Gift - บัตรของขวัญเพื่อการลงทุนในหุ้น (3) Wealth Me ? เครื่องมือช่วยตัวแทนประกันชีวิตวางแผนทางการเงิน ให้ลูกค้า (4) Moto Punk - แพลตฟอร์มช่วยลูกค้าเลือกดีลเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ กลุ่มที่ 2 กลุ่มบริการที่ช่วยผู้บริโภครักษาสิทธิ ได้แก่ (5) Flight DApp Bot - ระบบเคลมประกันอัตโนมัติด้วยบล็อกเชน (6) UTU ? แพลตฟอร์มใช้สิทธิแลกแต้มสะสมข้ามแบรนด์ ถัดมาเป็นกลุ่มบริการที่ช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีของ ผู้เอาประกัน ได้แก่ (7) noon - ระบบบันทึกพฤติกรรมการขับขี่รถเพื่อเบี้ยประกันที่เป็นธรรม (8) Insbee ? ประกันรถยนต์ที่จูงใจพฤติกรรมที่ดีผ่านเพียร์คอมมิวนิตี้ กลุ่มบริการที่ช่วยส่งเสริมสังคม cashless ได้แก่ (9) VenDingCoin - E-wallet สำหรับตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ และกลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มระบบช่วยทางการและสถาบันการเงิน ตรวจจับการฟอกเงินได้แก่ (10) Siam RegTech

นางทิพยสุดา ถาวรามร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ?ขอแสดงความยินดีกับ 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย แต่ละทีมมีแนวคิดและนวัตกรรมที่น่าสนใจ มีการนำฟินเทคมาปรับใช้กับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มีทางเลือกมากขึ้น ต้นทุนต่ำลง และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานหรือการปฏิบัติตามกฎหมาย / กฎเกณฑ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ บางแนวคิดก็ท้าทายหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องให้ต้องกลับมาคิดว่า จะช่วยขจัดอุปสรรคและส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ได้จริงในไทยได้อย่างไร?

ทั้งนี้ ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 10 ทีม จะได้รับการอบรมเพื่อพัฒนาต่อยอดผลงานนวัตกรรม โดยมีที่ปรึกษา และทีมงานคอยให้คำแนะนำ และจะนำเสนอผลงานบนเวทีต่อหน้าคณะกรรมการพร้อมกับจัดแสดงนิทรรศการต่อผู้สนใจทั่วไป ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ในวันที่ 27 กันยายน 2560 นี้ โดยในงานจะประกาศผล การตัดสินผู้ที่ได้รับทุนด้วย

--------------------------------------------

หน่วยงานพันธมิตรประกอบด้วย 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 3. เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 4. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ 5. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) 6. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7. ศูนย์ C Asean 8. สมาคมฟินเทคประเทศไทย และ 9. สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่

ทุนสนับสนุน 3 ทุน ได้แก่ 1. ทุนนวัตกรรมประเภท Rising Star FinTech จำนวน 100,000 บาท สำหรับทีมที่สามารถเสนอ business model ที่น่าสนใจ สามารถทำได้จริง 2. ทุนนวัตกรรมประเภท Innovative FinTech จำนวน 100,000 บาท สำหรับทีมที่สามารถเสนอ นวัตกรรม หรือความคิดสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการ 3. ทุนนวัตกรรมประเภท Popular Vote จำนวน 50,000 บาท สำหรับทีมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด