นางสาวรื่นวดี
สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากการที่ ก.ล.ต.
ได้มีการติดตามตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ซึ่งพบว่าตลาดตราสารหนี้มีประเด็นเชิงนโยบายหลายประการ เช่น
สภาพคล่องของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน
ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้ลงทุนในตราสารหนี้ การทำหน้าที่ของตัวกลาง
และผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องในตลาดตราสารหนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกลางและฐานข้อมูลในตลาด
รวมถึงประเด็นตราสารหนี้กลุ่มเสี่ยง โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินมาตรการเพื่อยกระดับ
ecosystem ให้รัดกุมยิ่งขึ้นไปแล้วในบางส่วน
อย่างไรก็ดี เพื่อให้การกำหนดนโยบาย
ทิศทาง เป้าหมาย และแนวทางการดำเนินการที่สำคัญในตลาดตราสารหนี้ มีประสิทธิผลและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ เพื่อให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
และประสานงานระหว่างผู้ร่วมตลาดทุนได้อย่างรวดเร็ว
รวมทั้งติดตามและประเมินสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้โดยเฉพาะกลุ่มตราสารหนี้ที่มีความเปราะบาง
ตลอดจนเสนอแนะการแก้ปัญหาของผู้ระดมทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเป็นรายกรณีหากจำเป็น
รวมทั้งแนวทางการส่งเสริมและผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุน High Yield Bond เป็นต้น
ทั้งนี้
คณะกรรมการกำกับและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ประกอบด้วยที่ปรึกษาและกรรมการรวม 17 ท่าน
โดยที่ปรึกษาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในตลาดตราสารหนี้
ได้แก่ (1) เลขาธิการ ก.ล.ต. (2) นางพรอนงค์ บุษราตระกูล (3) นางภัทธีรา
ดิลกรุ่งธีระภพ (4) นายอาสา อินทรวิชัย (5) นายสอาด ธีรโรจนวงศ์ และกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรต่าง
ๆ ได้แก่ กรมบังคับคดี สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย
สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
ชมรมวาณิชธนกิจ และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ที่มีสัดส่วนการให้บริการสูงในตลาดซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์
ประเภทธุรกิจละ 1 รายคือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์
เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รวมทั้งคณะผู้บริหาร ก.ล.ต.
_______________________