สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นเครื่องหมายบนหลักทรัพย์จดทะเบียนตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะขึ้นเครื่องหมายไว้บนหลักทรัพย์จดทะเบียน เพื่อเตือนผู้ลงทุนให้เพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาลงทุน แต่ผู้ลงทุนยังสามารถซื้อขายหลักทรัพย์นั้นได้ เช่น เครื่องหมาย NP (Notice Pending) ในกรณีที่อยู่ระหว่างรอข้อมูลสำคัญ หรือเครื่องหมาย C (Caution) ในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนเข้าลักษณะตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด* เช่น
• ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้วหักส่วนต่ำมูลค่าหุ้น
• ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายและศาลรับคำร้องขอไว้แล้ว หรือ ถูกเจ้าหนี้ยื่นฟ้องล้มละลายตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายและศาลรับคำฟ้องไว้แล้ว
• บริษัทจดทะเบียนมีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสดหรือหลักทรัพย์ระยะสั้น (Cash Company)
ขณะที่การขึ้นเครื่องหมาย H (Trading Halt) และเครื่องหมาย SP (Trading Suspension) เป็นการสั่งพักการซื้อขาย เมื่อมีเหตุการณ์กระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน เช่น บริษัทไม่เปิดเผยข้อมูลที่กระทบต่อฐานะการเงิน ไม่นำส่งงบการเงิน หรืองบการเงินไม่ถูกต้อง** และจะเข้าเกณฑ์ในการพิจารณาเหตุเพิกถอนหากบริษัทจดทะเบียนมีปัญหาฐานะการเงิน หรือ ไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์อันมีผลกระทบร้ายแรง เช่น ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์
สำหรับกรณีที่มีการซื้อขายผิดปกติ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการตรวจสอบและหากพิจารณาว่าอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดก็จะรวบรวมข้อมูลส่งให้ ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบในเชิงลึกและดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุน
_______________________
หมายเหตุ :
* ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง มาตรการดำเนินการกรณีบริษัทจดทะเบียนมีเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจ พ.ศ. 2561 ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2561
** ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการเกี่ยวกับการห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2562 ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2563