สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การยื่นคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมในลักษณะที่จะได้รับการอนุมัติเป็นการทั่วไป
(แบบ fast track)* เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม
(บลจ.) สามารถเสนอขายกองทุนรวมได้สอดคล้องกับสภาวะตลาด และเป็นการส่งเสริมให้ บลจ. ควบคุมการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง (self-compliance) รวมทั้งยังคงหลักการด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน
อีกทั้ง สำนักงาน ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัตราส่วนการลงทุน
เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการกองทุนให้แก่
บลจ.
ทั้งนี้
คณะกรรมการกำกับตลาดทุน ในการประชุม ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566
มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ใช้กับการจัดการลงทุน ตามที่ สำนักงาน ก.ล.ต.
เสนอ ดังนี้
(1) เพิ่มประเภทกองทุนรวมที่สามารถยื่นคำขอแบบ
fast track ได้ โดยให้ครอบคลุมถึงกองทุนฟีดเดอร์ (กองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมอื่นเพียงกองทุนเดียว)
และกองทุนรวมที่มีลักษณะคล้ายกับกองทุนรวมที่ได้รับการอนุมัติแบบปกติจาก
สำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยเพิ่มมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนรวมดังกล่าวมีคุณภาพที่เพียงพอ
ได้แก่ การเพิ่มคุณสมบัติของ บลจ. ที่สามารถยื่นคำขอ การปรับปรุงระยะเวลาในการอนุมัติคำขอ
เพื่อให้ สำนักงาน ก.ล.ต. มีระยะเวลาในการคัดกรอง (screening) การปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลประเภทและความเสี่ยงของกองทุนรวม
และการระงับสิทธิในการยื่นคำขอ กรณีพบข้อบกพร่องสำคัญจากการตรวจสอบ
(2) เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการลงทุน โดยปรับปรุงหลักการพิจารณาการผิดอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอกที่ บลจ. ควบคุมไม่ได้ ได้แก่
การไถ่ถอนหน่วยลงทุนของผู้ลงทุน และการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของมูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนมีการลงทุน
จากเกณฑ์เดิมที่อาจถูกพิจารณาเข้าข่ายเป็นความผิด (active breach)
ให้เป็นการลงทุนผิดอัตราส่วนที่เกิดจากเหตุการณ์ที่กำหนด
(passive breach) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการลงทุนแก่
บลจ. ในขณะที่ผู้ลงทุนยังคงได้รับความคุ้มครองเช่นเดิม
ทั้งนี้
สำนักงาน ก.ล.ต. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
และประชาชนเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมและหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัตราส่วนการลงทุนดังกล่าวต่อไป
หมายเหตุ
:
*
ปัจจุบันการยื่นคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมสามารถทำได้ 2 แบบ คือ
(1)
การยื่นคำขอแบบปกติ ซึ่ง สำนักงาน ก.ล.ต. จะดำเนินการพิจารณาคำขอให้แล้วเสร็จภายใน
90 วัน
(2) การยื่นคำขอแบบ fast track โดยต้องเป็นกองทุนรวมที่มีเงื่อนไขครบถ้วนตามที่ประกาศกำหนด