Detail Content
การจัดการกองทุนรวม
20. การเลิกกองทุนรวม
20.1 เหตุในการเลิกกองทุน
20.1.1
กองทุนรวมปิด
(1) กรณีกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (non-retail fund) จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงน้อยกว่า 10 รายในวันทำการใด เว้นแต่เป็นรายเดียวในกรณีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและประกันสังคม
(2) กรณีกองทุนรวมทั่วไป (retail fund) จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด
20.1.2
กองทุนรวมเปิด
(1) จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหมือนกองทุนรวมปิด
(2) มีการขายคืนหน่วยลงทุนลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ ยกเว้นกองทุนรวมตลาดเงิน (MMF) กองทุนรวมหน่วยลงทุน (FoFs) กองทุนรวมฟีดเดอร์ (feeder fund) กองทุนรวมดัชนี (index fund) และ กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF)
(2.1) กรณีมีการขายคืนเกินกว่า 2 ใน 3 ในวันทำการซื้อขายใด ๆ
(2.2) กรณีมีการขายคืนรวมกันเกินกว่า 2 ใน 3 ในช่วง 5 วันทำการต่อเนื่องกัน (ใช้จำนวนหน่วยที่ขายคืนรวมย้อนหลังไป 5 วัน)
ทั้งนี้ กรณีนี้ หาก บลจ. พิจารณาแล้ว และมีความเชื่อโดยสุจริตและสมเหตุผลว่าการเลิกกองทุนจะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุนที่เหลืออยู่ ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ บลจ. ว่าจะเลิกหรือไม่เลิกกองทุนก็ได้
วิธีการคำนวณกรณีมีการขายคืนรวมกันเกินกว่า 2 ใน 3 ในช่วง 5 วันทำการต่อเนื่อง
คำนวณโดยรวมยอดซื้อขายสุทธิย้อนหลัง 5 วันทำการ หารด้วย จำนวนหน่วยตั้งต้นของวันที่ย้อนหลังกลับไป 5 วันทำการ
ตัวอย่าง วันที่คำนวณคือวันที่ T+1
|
วันที่ T-4 |
วันที่ T-3 |
วันที่ T-2 |
วันที่ T-1 |
วันที่ T |
วันที่ T+1 |
ยอดซื้อขายสุทธิ |
X1 |
X2 |
X3 |
X4 |
X5 |
X6 |
จำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด |
Y1 |
Y2 |
Y3 |
Y4 |
Y5 |
Y6 |
กรณีนี้หมายถึง
(X1
+
X2
+
X3
+
X4
+
X5)
Y1
20.1.3 การดำเนินการเพื่อเลิกกองทุนรวมเมื่อเกิดเหตุที่ทำให้ต้องเลิก
(1) ยุติการรับคำสั่งซื้อและคำสั่งขายคืน
(2) แจ้งผู้ถือหน่วยและ ก.ล.ต. ภายใน 3 วันทำการ
(3) จำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินเพื่อรวบรวมเงินภายใน 5 วันทำการ
(4) ชำระค่าขายคืนภายใน 10 วันทำการและเมื่อชำระค่าขายคืนแล้ว ให้ถือว่าเลิกกองทุน
20.2 กรณีกองทุนรวมหน่วยลงทุน (FoFs)
ที่ลงทุนใน underlying fund ≥ 5% ของ NAV underlying fund หาก underlying fund มี NAV ในวันใด หรือภายใน 5 วันทำการต่อเนื่องกันลดลง > 2 ใน 3 ของ NAV underlying fund ให้ บลจ. ดำเนินการ ดังนี้
(1) แจ้งเหตุให้ ก.ล.ต.และผู้ถือหน่วยทราบภายใน 3 วันทำการ ให้ดำเนินการตามดุลยพินิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ดีที่สุดของผู้ถือหน่วย + ให้เสร็จภายใน 60 วัน โดย บลจ. อาจขอผ่อนผันระยะเวลาดำเนินการตาม (1) ได้ โดยต้องยื่นความเห็นของผู้ดูแลฯ มาเพื่อประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต.
(2) เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จให้รายงาน ก.ล.ต.ทราบ ภายใน 3 วันทำการและผู้ถือหน่วยลงทุนทราบ
(3) ในช่วงที่ดำเนินการให้เปิดเผยข้อมูลการดำเนินการต่อผู้ที่สนใจจะลงทุน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และให้ผู้แนะนำฯ / ผู้วางแผนฯ แจ้งข้อมูลให้ผู้ที่สนใจจะลงทุนทราบก่อนรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนด้วย
20.3
กรณีกองทุนรวมที่มีหน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
(1) ต้องปิดสมุดทะเบียนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
(2) กรณีที่ปิดสมุดทะเบียนแล้วพบว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนน้อยกว่า 35 ราย หาก บลจ. ไม่ประสงค์จะเลิกกองทุนได้ สามารถมีเวลาแก้ไข 30 วัน เมื่อครบกำหนดแล้วจะต้องปิดสมุดทะเบียนอีกครั้งหนึ่ง และหากยังคงมีผู้ถือหน่วยลงทุนน้อยกว่า 35 ราย บลจ. จะต้องดำเนินการเพื่อเลิกกองทุนตามที่ประกาศกำหนด