สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยนายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และนายวิบูลย์ ภัทรพิบูล ผู้ช่วยเลขาธิการ ในฐานะผู้แทน ก.ล.ต. เข้ารับรางวัลจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2567 “DG Awards 2024” ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) เพื่อมอบแก่หน่วยงานภาครัฐที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลในระดับสูง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 โดย ก.ล.ต. ได้รับรางวัล 4 รางวัล ดังนี้
(1) รางวัลรัฐบาลดิจิทัล หน่วยงานระดับกรมที่จัดทำนโยบาย ประสานงาน กำกับดูแล หรืออื่น ๆ เป็นหลัก อันดับที่ 2 ซึ่ง ก.ล.ต. ได้รับรางวัลนี้เป็นปีที่ 4
(2) รางวัลหน่วยงานคุณภาพด้านการใช้ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ (Data Governance) 
(3) รางวัลหน่วยงานคุณภาพด้านการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการทำงาน หรือการให้บริการ 
(4) รางวัลหน่วยงานคุณภาพด้านส่งเสริมการมีส่วนร่วมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Participation) 

ก.ล.ต. มุ่งมั่นนำดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาการให้บริการและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลงานสำคัญในปี 2567 อาทิ
- การให้บริการเป็นดิจิทัลครบวงจร โดยมีโครงการ e-Licensing (ใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์) และ Stakeholder Service Portal (ศูนย์บริการแบบครบวงจรสำหรับผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน) เพื่ออำนวยความสะดวกในการขออนุญาตและรายงานข้อมูลต่าง ๆ
- การให้บริการข้อมูลตลาดทุน เช่น SEC Check Tools ศูนย์รวมเครื่องมือการลงทุนสำหรับประชาชน ได้แก่ SEC Check First (ข้อมูลผู้ให้บริการและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาต) SEC Bond Check (ข้อมูลตราสารหนี้) SEC Fund Check (ข้อมูลกองทุนรวม) และ SEC IPO Fact Figure (ข้อมูลตราสารทุน) รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลตลาดทุน (SEC Open Data) โดยในรอบปี 2567 มีการเปิดเผยข้อมูล One Report ข้อมูลตราสารหนี้ และข้อมูล PVD ในรูปแบบ API เพิ่มเติม 
- การพัฒนาประสิทธิภาพการกำกับดูแลและการปฏิบัติงาน โดยรับข้อมูลแบบละเอียด (Granular Report) ช่วยลดภาระของภาคธุรกิจและวิเคราะห์ความเสี่ยงได้แม่นยำขึ้น และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกระทำผิดและคุ้มครองผู้ลงทุน

ในปี 2568 ก.ล.ต. พร้อมเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยมี “แผนพัฒนาการให้บริการดิจิทัล” โดยมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่
- Empowering Business: การขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน และเสริมความมั่นคงปลอดภัย ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือกับความท้าทายและวิกฤตต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 
- Streamlining Services: การให้บริการดิจิทัลตลอดสาย แบบ end-to-end ให้เพิ่มประสิทธิภาพ และความโปร่งใสในการให้บริการ 
- Democratizing Wealth: การพัฒนาระบบดิจิทัลให้ประชาชนเข้าถึงการลงทุนกระจายความเสี่ยง และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน 

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังมุ่งเน้นในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านการใช้ข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง