Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ไทยและกัมพูชาร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านตลาดทุน



วันพุธที่ 9 เมษายน 2557 | ฉบับที่ 46 / 2557



ก.ล.ต. ไทยโดยนายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา  (Securities and Exchange Commission of Cambodia: SECC) โดย Mr. Ming Bankosal, Director General ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MoU) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนของทั้งสองประเทศ

MoU ดังกล่าวครอบคลุมการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันในการป้องปรามและดำเนินการกับผู้กระทำความผิด การยกระดับความสามารถของบุคลากรในตลาดทุน และความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้แก่ธุรกิจ ตลาดทุน และเศรษฐกิจของประเทศ โดยพิธีการลงนาม MoU มีขึ้น ณ กรุงพนมเปญ และได้รับเกียรติจาก Mr. Aun Pornmoniroth รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง และประธาน ก.ล.ต. แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และนายธัชชยุติ ภักดี เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ชมรมวาณิชธนกิจ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนของไทย  และผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและบริษัทหลักทรัพย์ของกัมพูชา

นายวรพล  โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ?ประเทศไทยและกัมพูชามีพรมแดนติดต่อกันและมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างกันอย่างใกล้ชิด โดยกัมพูชามีการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และตลาดทุนจะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในไม่ช้า  การลงนาม MoU ในวันนี้จึงถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมกันพัฒนาโอกาสทางธุรกิจและยกระดับความร่วมมือด้านตลาดทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของภูมิภาค?

Mr. Ming Bankosal, Director General of SECC กล่าวว่า ?กัมพูชาตระหนักและให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคนี้  การลงนามใน MoU วันนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือและการรวมตลาดทุนอาเซียน ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง ก.ล.ต. ไทย-กัมพูชา จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ระยะยาวร่วมกันต่อไปในอนาคต ซึ่งเชื่อมั่นว่าการลงนามใน MoU จะเป็นช่องทางในการเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างเป็นทางการมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างกรอบในการหารือและแลกเปลี่ยนความรู้ในด้านต่างๆ ระหว่างกัน?