ก.ล.ต. ร่วมกับ 9 หน่วยงานพันธมิตรจัดโครงการ ?FinTech Challenge? ครั้งที่ 2 เฟ้นหาผลงานการประกวดนวัตกรรมฟินเทค ชิงเงินรางวัลกว่า 400,000 บาท โดยครั้งนี้มุ่งเน้นผลงานนวัตกรรมที่ตอบโจทย์หรือขจัดอุปสรรคในตลาดเงิน ตลาดทุน และประกันภัยของไทย เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2560
ก.ล.ต. ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร 9 แห่ง* เดินหน้าโครงการ FinTech Challenge ครั้งที่ 2 เชิญชวนผู้สนใจจากทุกสาขาอาชีพทั้ง นิสิต นักศึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้สนใจทั่วไป ที่มีแนวคิดหรือผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการด้านการเงิน การลงทุน การประกันภัย ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 400,000 บาทโดยสามารถส่งผลงานนวัตกรรมฟินเทคได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 ผ่านทางเว็บไซต์ www.fintechchallenge.info
นางทิพยสุดา ถาวรามร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ?หลังจากได้รับผลตอบรับอย่างดีจากการจัดประกวดผลงานนวัตกรรมฟินเทคในโครงการ FinTech Challenge ครั้งที่ 1 ที่ประกาศผลผู้ชนะไปแล้วเมื่อต้นที่ผ่านมาโดยผลงานที่ชนะเลิศแต่ละประเภทมีความโดดเด่นด้านการนำเทคโนโลยีฟินเทคเข้ามาปรับใช้กับในธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้มากยิ่งขึ้น ก.ล.ต. และหน่วยงานพันธมิตรจึงสานต่อโครงการ FinTech Challenge ครั้งที่ 2 เพื่อเฟ้นหาผลงานที่ตอบโจทย์หรือขจัดอุปสรรคที่เกิดขึ้นจริงในตลาดเงิน ตลาดทุน และประกันภัยของไทย?
การประกวดแบ่งออกเป็น 3 รอบ ซึ่งจะมีทีมที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย จำนวน 8 ทีม ได้รับเงินทุนสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมทีมละ 20,000 บาท จากนั้นทีมผู้เข้ารอบจะนำเสนอผลงานนวัตกรรมและจัดนิทรรศการแสดงผลงานในวัน demo day ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 กันยายน 2560 เพื่อชิงเงินรางวัลเงินทุนสนับสนุนนวัตกรรมยอดเยี่ยมจำนวน 3 ทุน ได้แก่ ทุนนวัตกรรมประเภท Rising Star FinTech ทุนนวัตกรรมประเภท Innovative FinTech ทุนนวัตกรรมประเภท Popular Vote รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 250,000 บาท ร้อมรับโล่รางวัลเพื่อเป็นเกียรติ และรับสิทธิพิเศษในการใช้สถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกจากหน่วยงานพันธมิตรที่มาร่วมงานในวันดังกล่าวด้วย
สำหรับการส่งทีมสมัครเข้าร่วมประกวดในโครงการ FinTech Challenge ครั้งที่ 2 นั้น จะต้องมจำนวนสมาชิกในทีมประมาณ 2 ? 4 คน ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน เป็นนักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ และมีสมาชิกอย่างน้อย 1 คน ที่สามารถพัฒนาชิ้นงานเทคโนโลยีได้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์พบปะกับผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงรับคำปรึกษาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานกำกับดูแล อาทิ ก.ล.ต. ธนาคารแห่งประเทศไทย และ คปภ.
---------------------------------------------------------------------
*ประกอบด้วย 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 2. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) 3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4. เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย 5. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) 6. ศูนย์ C Asean 7. สมาคมฟินเทคประเทศไทย 8. สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ และ 9. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)