ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับอดีตกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) รวม 6 ราย ได้แก่ (1) {ก} (2) {ข} (3) {ค} (4) {ฆ} (5) {ง} และ (6) {จ} กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและความระมัดระวัง เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 3,000,000 บาท  

ก.ล.ต. ตรวจสอบการดำเนินการของ CWT พบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 กรรมการของ CWT รวม 6 ราย ได้ร่วมกันพิจารณาและอนุมัติให้บริษัทย่อยของ CWT เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทจำกัดแห่งหนึ่งจากผู้ขายในมูลค่า 70 ล้านบาท โดยมีข้อตกลงในการชำระเงิน ณ วันทำสัญญาประมาณร้อยละ 70 และเงินส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 30 จะชำระเมื่อผู้ขายหุ้นได้ดำเนินการทุกอย่างตามข้อตกลงแล้วเสร็จ  อย่างไรก็ดี หลังจากการอนุมัติเข้าลงทุนเพียง 12 วัน กรรมการทั้ง 6 ราย ได้ตัดสินใจให้ CWT ชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด ทั้งที่ผู้ขายยังไม่ได้ดำเนินการเรื่องต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ซึ่งก่อนการทำข้อตกลง กรรมการอยู่ในสถานะที่จะทราบว่า ผู้ขายไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวได้  เป็นผลให้ CWT ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการต้องดำเนินการในส่วนที่เหลือเอง

การกระทำของอดีตกรรมการและผู้บริหารทั้ง 6 ราย เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและความระมัดระวัง จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 89/7 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีระวางโทษอาญาตามมาตรา 281/2 วรรคหนึ่ง และมาตรการลงโทษทางแพ่งตาม 317/1 มาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับใช้กับผู้กระทำผิดทั้ง 6 ราย และผู้กระทำผิดทั้ง 6 ราย ได้ทำบันทึกยินยอมรับมาตรการลงโทษทางแพ่งและปฏิบัติตามบันทึกยินยอมดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ดังนี้ (1) {ก} (2) {ข} (3) {ค} (4) {ฆ} (5) {ง} และ (6) {จ} ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000 บาท

นอกจากการถูกลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าวแล้ว ก.ล.ต. ยังสั่งห้ามมิให้ {ก} เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้นเป็นเวลา 6 เดือน และสั่งห้ามมิให้ {ข} {ค} {ฆ} {ง} และ {จ} เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้น[1] เป็นเวลา 3 เดือน