ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อลดอุปสรรคแก่ บจ. ในการปรับโครงสร้างการถือหุ้นเพื่อรองรับการควบหรือรวมกิจการ โดยเปิดทางให้การเสนอขายเงินลงทุนในหุ้นที่ถือโดยบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทย่อยสามารถทำได้โดยสะดวก โดยยังคงมีกลไกคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้น รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้ บจ. ออก TSR ให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่ออกให้ผู้ถือหุ้นรายที่จะทำให้ บจ. มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ได้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) มีแนวคิดที่จะแก้ไขหลักเกณฑ์การเสนอขายเงินลงทุนในหุ้นที่ถือโดยบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทย่อย
เพื่อให้การเสนอขายเงินลงทุนดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นก่อนการควบรวมกิจการ
สามารถทำได้โดยสะดวก โดยกรณีเป็นเงินลงทุนในหุ้นของบริษัทมหาชนจำกัด จะยกเว้นการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน
และกรณีเป็นเงินลงทุนในหุ้นของบริษัทจำกัด จะให้เสนอขายผู้ลงทุนเกิน 50 รายได้ โดยผู้เสนอขายต้องจัดให้มีกลไกคุ้มครองสิทธิ
ของผู้ถือหุ้น ดังนี้
(ก) เป็นการเสนอขายตามมติที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของผู้เสนอขาย
โดยหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นต้องให้ข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจ เช่น ขั้นตอนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการควบรวมกิจการ ข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบ และความเห็นของคณะกรรมการบริษัท เป็นต้น
(ข) ราคาหุ้นที่เสนอขายต้องเป็นมูลค่ายุติธรรมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานและมีความเป็นอิสระจากผู้เสนอขาย
(ค) มีบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นอิสระในการให้คำแนะนำและประเมินความเหมาะสมที่จะลงทุนของผู้มีสิทธิจองซื้อหุ้นเดิม
(ง) แจกจ่ายข้อมูลหุ้นเดิมที่เสนอขายให้เฉพาะผู้มีสิทธิจองซื้อก่อนวันจองซื้อไม่น้อยกว่า
14 วัน และไม่โฆษณาการเสนอขายหุ้นเดิมเป็นการทั่วไป
นอกจากนี้ ก.ล.ต. เสนอปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้
(TSR) เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถออก TSR ให้ผู้ถือหุ้นของตนตามสัดส่วนการถือหุ้น
โดยไม่ออกให้ผู้ถือหุ้นรายที่จะทำให้บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ
ซึ่งเป็นไปตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ ก.ล.ต.
ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=483 ผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์
หรือโทรสาร 02-033-9590
หรือ 02-263-6548 หรือทาง e-mail: wimol@sec.or.th หรือ chompunut@sec.or.th จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562