ก.ล.ต. เห็นชอบแนวทางการปฏิบัติงานซื้อขายผลิตภัณฑ์ของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เพื่อลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกในการลงทุนต่างประเทศ อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยเป็นการซื้อขายผ่านผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางของไทย สอดคล้องนโยบาย ก.ล.ต. ที่สนับสนุนให้ผู้ลงทุนไทยมีทางเลือกใช้บริการในการลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ต้องการ
ที่ผ่านมา ก.ล.ต. มีนโยบายสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในไทย
(หรือผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง) ขยายขอบเขตการให้บริการแก่ผู้ลงทุนไทยในการลงทุนในผลิตภัณฑ์สกุลเงินตราต่างประเทศได้
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนไทยมีช่องทางและทางเลือกในการลงทุนได้ตามกลยุทธการลงทุนของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และจากสถิติการลงทุนต่างประเทศที่ผ่านมา
พบว่านักลงทุนไทยลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับการที่ ก.ล.ต.
ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่ออำนวยความสะดวกการลงทุนต่างประเทศ ก.ล.ต.
และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จึงร่วมกันปรุงแนวทางการปฏิบัติงานของสมาคมฯ โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเปิดบัญชีได้โดยตรงกับผู้ประกอบธุรกิจในต่างประเทศ
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนส่งคำสั่งซื้อขายแบบ online
ได้ด้วยตนเอง นอกเหนือจากในปัจจุบันที่ผู้ลงทุนจะต้องเปิดบัญชี ในลักษณะที่เป็นบัญชีย่อยของบัญชีที่ตัวกลางไทยเปิดไว้ในลักษณะไม่เปิดเผยชื่อ
(omnibus account) เท่านั้น รวมทั้งผู้ลงทุนยังสามารถโอนย้ายพอร์ตลงทุนจากผู้ประกอบธุรกิจไทยรายหนึ่งไปยังผู้ประกอบธุรกิจไทยรายอื่นได้
และสามารถโอนย้ายหลักทรัพย์ หรือสถานะในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
หรือเงินตราต่างประเทศที่อยู่ในต่างประเทศไปยังผู้ประกอบธุรกิจไทยที่ประสงค์จะใช้บริการได้เช่นกัน
โดยผู้ลงทุนต้องแสดงข้อมูลเพื่อพิสูจน์แหล่งที่มาของเงินลงทุนตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
และตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. มีนโยบายส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย
และมีการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการลงทุน โดยการลงทุนผ่านประกอบธุรกิจไทยนั้น
ผู้ลงทุนจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุนของต่างประเทศที่เหมาะกับตนเองอีกทั้งยังได้รับความสะดวก เช่น
การติดต่อกับผู้ประกอบธุรกิจต่างประเทศ การแลกเปลี่ยนและโอนเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อขาย
และยังมั่นใจได้ว่าได้รับการคุ้มครองจากการใช้บริการ เนื่องจากเป็นการลงทุนผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ
โดยการให้ความเห็นชอบการปรับปรุงแนวปฏิบัติของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยของ ก.ล.ต. ในครั้งนี้จะช่วยผู้ลงทุนได้รับความสะดวกและยืดหยุ่นในการลงทุนมากยิ่งขึ้น”
ปัจจุบัน ก.ล.ต.
เปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในผลิตภัณฑ์สกุลเงินตราต่างประเทศผ่านผู้ประกอบธุรกิจไทย
สามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย เช่น หุ้น
ตราสารหนี้ กองทุนรวม สัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานต่างประเทศที่เป็นสมาชิกของ IOSCO* หรืออยู่ในกลุ่มประเทศ OECD**
หรืออยู่ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 120 ประเทศ ทำให้ผู้ลงทุนทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุน
เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ต้องการ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ทั้งนี้
ในกรณีที่ผู้ลงทุนดังกล่าวเป็นบุคคลที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ต้องได้รับวงเงินจัดสรรจาก
ก.ล.ต. ผู้ประกอบธุรกิจไทยจะเป็นผู้ขอรับวงเงินจัดสรรและควบคุมรายงานการใช้วงเงินดังกล่าวให้กับ
ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นเดิม
___________________
* IOSCO : International Organization of Securities Commission
** OECD : Organization for Economic Co-operation and
Development