สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการดำเนินการของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กรณีลูกค้าร้องเรียน และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 – 5 มิถุนายน 2560 นางสาวนุชนารถได้ถอนเงินจากบัญชีลูกค้าแต่ไม่ซื้อกองทุนตามที่ลูกค้าสั่ง ทำรายการซื้อแต่ไม่ครบตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ และยักยอกเงินไปโดยนำเงินฝากเข้าบัญชีตนเองหรือผู้เกี่ยวข้องและโอนคืนลูกค้ารายอื่นที่ได้ทำทุจริตไปก่อนหน้า รวมทั้งปลอมแปลงใบคำขอถอนเงินของลูกค้าและปลอมลายมือชื่อลูกค้าในช่องผู้นำส่งใบฝากเงิน โดยนางสาวนุชนารถมีหนังสือรับสารภาพต่อธนาคารว่า ได้ทำการทุจริตเงินลูกค้าและนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวประมาณ 8.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารได้เลิกจ้างนางสาวนุชนารถและไม่จ่ายค่าชดเชย รวมทั้งดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ชดใช้เงินคืนให้ลูกค้าทุกรายแล้ว
การกระทำของนางสาวนุชนารถข้างต้น เป็นการกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน* ก.ล.ต. จึงเพิกถอนและกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563
ก.ล.ต. ขอเตือนผู้ลงทุนกรณีประสงค์ซื้อขายกองทุนควรตรวจสอบให้มั่นใจว่า ได้รับหลักฐานการซื้อขายที่ออกโดยธนาคารหรือบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) แล้ว รวมทั้งควรนำสมุดบัญชีกองทุน (ถ้ามี) ไปปรับปรุงรายการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดจากการทุจริตได้
_____________________________
*ข้อ 23(1) และเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 48/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560