ก.ล.ต. เปิดเผยความคืบหน้าการทดสอบการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) มาประยุกต์ใช้ในการซื้อขายตราสารหนี้ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ภายใต้โครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการให้บริการเกี่ยวกับตลาดทุน (Regulatory Sandbox) ของ ก.ล.ต. ปัจจุบันมีเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมทดสอบการออกและเสนอขายหุ้นกู้แล้ว 2 ราย มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า
ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติอนุมัติการออกใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ให้แก่
ThaiBMA ภายใต้โครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการให้บริการเกี่ยวกับตลาดทุน
(Regulatory Sandbox) โดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยให้กระบวนการซื้อขายตราสารหนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 นั้น ปัจจุบันมีภาคเอกชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมการทดสอบเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้บนระบบบล็อกเชนของ
ThaiBMA แล้วจำนวน 2 ราย ได้แก่ (1) บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง
(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งออกหุ้นกู้มูลค่า 500 ล้านบาท อายุ 11
เดือน 29 วัน
เสนอขายจำกัดเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ และ (2) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งออกหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศมูลค่า 17 ล้านยูโร อายุ 3 เดือน และเสนอขายจำกัดเฉพาะนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ
สำหรับผลการทดสอบระบบงานภายใต้โครงการดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
ยังไม่พบประเด็นหรือปัญหาขัดข้องทางเทคโนโลยีที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนแต่อย่างใด
โดย ก.ล.ต. จะติดตามผลการทดสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ การทดสอบการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการตลาดทุนภายใต้
Regulatory
Sandbox เป็นหนึ่งในนโยบายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560 - 2564) เกี่ยวกับรูปแบบเทคโนโลยี DLT (Distributed Ledger Technology) ของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนให้แก่ผู้ร่วมตลาดทุนทุกภาคส่วน
ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกและเท่าเทียม
และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลต่อไป
_____________________________