นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) กล่าวว่า
ก.ล.ต. สนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในตลาดทุน ได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทำความรู้จักลูกค้าด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
หรือแบบ e-KYC เพื่อช่วยในการเปิดบัญชีลงทุนแบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือผ่านการใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลหรือ
National Digital ID (NDID) ขณะนี้มีบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 6 แห่ง และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจำนวน 4 แห่ง ที่พร้อมเริ่มให้บริการเปิดบัญชีลงทุน เช่น หุ้น กองทุนรวม และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ผ่านระบบ NDID ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน
2563 เป็นต้นไป โดยผู้ลงทุนที่เปิดบัญชีลงทุนผ่านระบบ NDID ไม่ต้องพิสูจน์ตัวตนซ้ำ ทำให้เริ่มลงทุนได้เร็วกว่าการเปิดบัญชีปกติ
ซึ่งบริการเปิดบัญชีดังกล่าวเป็นส่วนที่ขยายขอบเขตการให้บริการของธนาคารพาณิชย์ตามโครงการทดสอบใน
Regulatory sandbox ของ ธปท. และ ก.ล.ต. ขอขอบคุณ ธปท. ที่ได้ผลักดันให้ระบบ
NDID สามารถใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรมและสามารถขยายขอบเขตการให้บริการมายังผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในตลาดทุน
สำหรับการเปิดบัญชีลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนผู้ลงทุนจะต้องเตรียมพร้อมก่อนการขอเปิดบัญชี
เช่น มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการในระบบ NDID และสมัครบริการ
mobile banking ของธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวให้พร้อมใช้งาน
จึงจะสามารถเปิดบัญชีลงทุนผ่านระบบ NDID ได้ โดยผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อธนาคารพาณิชย์
บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน รวมถึงศึกษาการใช้งานและคุณสมบัติการใช้งาน
NDID ได้ที่ www.ndid.co.th/publication
ทั้งนี้ โครงการ NDID เป็นโครงการที่รัฐบาลได้ริเริ่มขึ้นเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางของประเทศสำหรับผู้ให้บริการทั้งภาครัฐและเอกชน โดย ก.ล.ต. ได้ผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในตลาดทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเข้าร่วมโครงการ
NDID ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ NDID กว่าร้อยละ 80 ของผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในตลาดทุนทั้งหมด
และมีผู้ที่อยู่ระหว่างการทดสอบซึ่งจะทยอยเริ่มให้บริการเปิดบัญชีลงทุนผ่านระบบ NDID เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
________________________