สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์และร่างประกาศเพื่อกำหนดพฤติการณ์อันควรสงสัยเกี่ยวกับการกระทำความผิดและวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ดังกล่าว ตามมาตรา 89/25* แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) เพื่อให้การดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น
ตามที่มาตรา 89/25 แห่ง พ.ร.บ.
หลักทรัพย์ฯ กำหนดให้ผู้สอบบัญชีมีหน้าที่ในการแจ้งพฤติการณ์อันควรสงสัยที่พบจากการสอบบัญชีตามมาตรฐานการสอบบัญชี
ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดเสนอหลักการและยกร่างประกาศดังกล่าวโดยกำหนดให้ผู้สอบบัญชีต้องแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทหลักทรัพย์** หรือคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทจดทะเบียนนั้นทราบ
หากผู้สอบบัญชีพบพฤติการณ์อันควรสงสัยว่า กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล
อาจมีการกระทำผิดตามมาตราที่ระบุไว้ในมาตรา 89/25 เช่น
การเบียดเบียนเอาทรัพย์ของนิติบุคคลไปโดยทุจริต หรือการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
อันเป็นการเสียหายแก่นิติบุคคล หรือเปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้กำหนดวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ดังกล่าว
โดยให้เป็นไปตามจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชีและข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชี เช่น
มาตรฐานการสอบบัญชีเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีเกี่ยวกับการพิจารณาการทุจริตในการตรวจสอบงบการเงิน และการพิจารณากฎหมายและข้อบังคับในการตรวจสอบงบการเงิน
(สามารถดูได้ที่ https://www.tfac.or.th/Article/Detail/119155)
ทั้งนี้ ก.ล.ต.
ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ สำนักงาน ก.ล.ต.
https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=699 โดยผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์
หรือทาง e-mail: cholatip@sec.or.th หรือ supavade@sec.or.th จนถึงวันที่ 12 เมษายน 2564
________________________________
*มาตรา 89/25 ในการสอบบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์หรือบริษัทตามมาตรฐานการสอบบัญชี
ไม่ว่าจะกระทำในฐานะเป็นผู้สอบบัญชีของนิติบุคคลดังกล่าวหรือในฐานะอื่น
ซึ่งนิติบุคคลดังกล่าวยินยอมให้สอบบัญชีก็ตาม
ถ้าผู้สอบบัญชีพบพฤติการณ์อันควรสงสัยว่ากรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลดังกล่าวได้กระทำความผิด ตามมาตรา 281/2 วรรคสอง มาตรา 305 มาตรา 306 มาตรา 308 มาตรา 309 มาตรา 310 มาตรา 311 มาตรา 312 หรือมาตรา 313
ให้ผู้สอบบัญชีแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ดังกล่าวให้คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทหลักทรัพย์หรือบริษัทนั้นทราบเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไปโดยไม่ชักช้า
และให้คณะกรรมการตรวจสอบรายงานผลการตรวจสอบในเบื้องต้นให้แก่ ก.ล.ต.
และผู้สอบบัญชีทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้สอบบัญชี
ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบไม่ดำเนินการ ให้ผู้สอบบัญชีแจ้งให้ ก.ล.ต. ทราบ โดยพฤติการณ์อันควรสงสัยที่ต้องแจ้ง
และวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ดังกล่าว
ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด
**บริษัทหลักทรัพย์ที่ต้องจัดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน