Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ออกเกณฑ์ส่งเสริมให้บุคลากรในธุรกิจตลาดทุนพัฒนาความรู้ด้าน ESG เพื่อผลักดันการลงทุนอย่างยั่งยืน



วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 | ฉบับที่ 59 / 2564


ก.ล.ต. ปรับปรุงเกณฑ์ด้านบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนโดยกำหนดให้การอบรมเกี่ยวกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance) หรือ ESG เป็นหลักสูตรภาคบังคับสำหรับการต่ออายุความเห็นชอบของผู้แนะนำการลงทุน ผู้วางแผนการลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุน เจ้าหน้าที่จัดการการซื้อขายด้านสินค้าเกษตร ผู้จัดการกองทุน และผู้จัดการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการให้บริการแก่ผู้ลงทุน

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สนับสนุนและส่งเสริมเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้ความสำคัญกับการประกอบธุรกิจและการลงทุนในตลาดทุนไทยที่คำนึงถึง ESG ในทุกมิติ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง และผู้ลงทุน ตลอดจนการผลักดันให้ภาคธุรกิจในตลาดทุนเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG เพื่อให้ผู้ลงทุนมีไว้สำหรับประกอบการตัดสินใจลงทุน ผ่านแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1 One Report) ซึ่งจะเริ่มใช้ในปี 2565 นั้น 

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “บุคลากรในธุรกิจตลาดทุนเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากในการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนที่คำนึงถึง ESG แก่ผู้ลงทุน ซึ่งไม่ใช่เพียงผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้น แต่ยังต้องขยายไปถึงผู้ลงทุนรายย่อยด้วย ก.ล.ต. จึงส่งเสริมให้บุคลากรในตลาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ให้บริการคำแนะนำการลงทุน วิเคราะห์การลงทุน รวมถึงตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนสำหรับผู้ลงทุน ได้มีการเข้าอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับ ESG เพิ่มเติมจากเกณฑ์เดิมที่กำหนดให้ต้องผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบ จรรยาบรรณ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความรู้ในเรื่องดังกล่าวอย่างเพียงพอและได้ทบทวนความรู้อย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับบริบทที่อาจเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา  

ทั้งนี้ การผ่านการอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับ ESG ทุก ๆ 2 ปี จะเป็นคุณสมบัติหนึ่งในการยื่นคำขอกับ ก.ล.ต. เพื่อต่ออายุความเห็นชอบบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ประเภทผู้แนะนำการลงทุน ผู้วางแผนการลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุน เจ้าหน้าที่จัดการการซื้อขายด้านสินค้าเกษตร ผู้จัดการกองทุน และผู้จัดการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม รวมถึงบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนดังกล่าวที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก มีเวลาเพียงพอในการเตรียมความพร้อมในช่วงปีนี้

“ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่า บุคลากรในธุรกิจตลาดทุน รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง* เป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการตอบโจทย์การพัฒนาตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Capital Market) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุน ผู้ระดมทุน และตลาดทุนโดยรวม” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว

_________________________ 

หมายเหตุ : *ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง ได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งให้บริการ อาทิ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ค้าหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวม จัดการกองทุนส่วนบุคคล ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นต้น







ข่าวในหมวดเดียวกัน

ก.ล.ต. FETCO และ TDO เชิญชวนร่วมบริจาคโลหิตในโครงการตลาดทุนร่วมใจสร้างกุศลบริจาคโลหิตฯ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 20 พ.ย. 67
ก.ล.ต. จัดกิจกรรม "แคมเปญ ออน แคมปัส" ติดอาวุธความรู้การเงินการลงทุนเด็กรุ่นใหม่ พร้อมเปิดเวทีประกวดคลิปสั้น ชิงทุนการศึกษารวม 70,000 บาท
ก.ล.ต. เปิดตัวแคมเปญ “Lifelong Investing ลงทุนวิทยาฉบับ 50+” ชวนวัยใกล้เกษียณและวัยเกษียณ เพิ่มความรู้ด้านการเงินการลงทุน สร้างภูมิคุ้มกันไม่ถูกหลอก
ก.ล.ต. ผนึกกำลัง PRI และ AIGCC ส่งเสริมศักยภาพ บลจ. ไทย ในการวางแผนปฏิบัติการสู่เป้าหมาย Net Zero
ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านเงินทุนสำหรับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพิ่มความเชื่อมั่นและคุ้มครองผู้ลงทุน