Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้น RAM ไปใช้สิทธิออกเสียงกรณีการขอสัตยาบันการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยไม่เหมาะสม



วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 | ฉบับที่ 69 / 2566


ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้นบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) (RAM) ศึกษาข้อมูลและไปใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2566 กรณีวาระพิจารณาให้สัตยาบันการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท เอฟแอนด์เอส 79 จำกัด (F&S) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติเนื่องจากอัตราผลตอบแทนไม่เหมาะสม

สืบเนื่องจากบริษัทย่อยของ RAM หลายแห่ง ได้นำสภาพคล่องส่วนเกินไปให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ F&S ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยให้กู้ยืมในรูปของตั๋วแลกเงินอายุ 1 ปี แบบไม่มีหลักประกัน คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2.25  – 2.5 ต่อปี รวมเป็นเงิน 480 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัท F&S ได้ชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่บริษัทย่อยของ RAM แล้ว แต่การทำธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นก่อนทำรายการ ตามประกาศว่าด้วยการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการให้สัตยาบันดังกล่าวในวันที่ 28 เมษายน 2566

นอกจากนี้ RAM ยังได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก F&S จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยต้องชำระคืนเมื่อทวงถาม คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.75 – 4.00 ต่อปี ซึ่งปัจจุบัน RAM ได้ชำระหนี้เงินกู้บางส่วนแล้ว และคงเหลือหนี้ อีก 200 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566 นี้

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) มีความเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการให้สัตยาบันในธุรกรรมการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ F&S เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่บริษัทย่อยได้รับไม่เหมาะสม เพราะต่ำกว่าอัตราตลาดและต่ำกว่าต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงินของบริษัทย่อย นอกจากนี้ IFA ได้คำนวณส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายเสมือนมีการปล่อยกู้วนในครั้งนี้แล้วพบว่า จะส่งผลให้กลุ่ม RAM ขาดทุนเป็นเงินจำนวน 3.46 ล้านบาท 

คณะกรรมการบริษัทเห็นว่า ผลตอบแทนจากการให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.25 – 2.5 ต่อปี ดีกว่าการที่บริษัทย่อยนำไปฝากเงินกับสถาบันการเงินในประเทศที่จะได้รับผลตอบแทนเท่ากับ ร้อยละ 0.40 – 1.35 ต่อปี การปล่อยกู้ดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายลงทุนในขณะนั้น ทั้งนี้ บริษัทและกลุ่มบริษัทย่อยไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดกำไรแก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ RAM ครั้งที่ 8/2566 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566  จึงมีมติให้บริษัทย่อยเรียกชำระดอกเบี้ยส่วนต่าง จำนวน 3.46 ล้านบาทคืนจาก F&S ซึ่ง F&S ได้ชำระดอกเบี้ยส่วนต่างคืนแล้วในวันที่ 30 มีนาคม 2566

ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งสอบถามผู้บริหาร RAM ถึง ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนสำหรับประกอบการตัดสินใจออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย

___________________






ข่าวในหมวดเดียวกัน

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดเก็บหลักฐานเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ และหลักเกณฑ์รองรับโครงการ Sandbox ของ ธปท.
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล
ก.ล.ต. เข้าร่วมเป็นสมาชิก ASEAN Taxonomy Board จัดทำมาตรฐานและเกณฑ์การจัดหมวดหมู่ด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนอาเซียน
ก.ล.ต. สานต่อโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน” เฟส 2 ผนึกกำลังผู้ประกอบธุรกิจเดินหน้าให้ความรู้ทางการเงินการลงทุน