สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ได้ยกเลิกการกำหนดหลักเกณฑ์การส่งเสริมการขายกองทุนรวม
เพื่อลดความซ้ำซ้อนของกฎเกณฑ์ในประกาศ ก.ล.ต. และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ภาคธุรกิจในการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพการแข่งขันทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น
โดยยังคงอยู่บนหลักการกำกับดูแลที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการ
Regulatory Guillotine
ก.ล.ต. เห็นควรให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศเกี่ยวกับการจัดรายการส่งเสริมการขายกองทุนรวม
ตามที่ได้หารือร่วมกับ AIMC ถึงแนวทางการปรับปรุงร่างประกาศดังกล่าว
ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
(1) กำหนดขอบเขตการใช้บังคับของประกาศ
AIMC ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และกำกับดูแลการส่งเสริมการขายกองทุนรวมต่างประเทศให้มีมาตรฐานเดียวกัน
ทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาดทุน
(2) ย้ายหลักเกณฑ์การส่งเสริมการขายในประกาศ
ก.ล.ต. มายังประกาศ AIMC และปรับปรุงบางส่วนให้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
เช่น อนุญาตให้จำกัดจำนวนของสมนาคุณกรณีส่งเสริมการขายการเปิดบัญชีที่ไม่มีเงื่อนไขให้ลงทุน
ผ่อนคลายข้อกำหนดเกี่ยวกับความถี่ของการส่งเสริมการขายที่มีลักษณะเป็นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
(DCA) และยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์บางส่วน กรณีเข้าร่วมโครงการที่จัดทำเพื่ออุตสาหกรรมหรือสังคม
เช่น โครงการขยายฐานผู้ลงทุนในกองทุนรวม และโครงการส่งเสริมการออมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสังคมสูงวัย
เป็นต้น
(3) กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้า
ค้า หรือจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน (selling agents)
มีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การส่งเสริมการขายตามประกาศ AIMC โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม
(บลจ.) ไม่ต้องกำกับดูแลให้
selling agents
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ชัดเจน และเป็นธรรม ทั้งนี้ บลจ. และ selling agents ยังคงต้องดำเนินการร่วมกันเพื่อให้มูลค่าของสมนาคุณโดยรวมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้
เมื่อ ก.ล.ต. เห็นชอบประกาศส่งเสริมการขายที่
AIMC ได้ปรับปรุงในครั้งนี้
ประกาศดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจ
ที่ให้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนทุกประเภท
ทั้ง บลจ. ที่เป็นบริษัทสมาชิกของ AIMC
และ
selling agents เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต
บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ที่มิได้เป็นบริษัทสมาชิกของ AIMC ด้วย
ก.ล.ต.
จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไปก่อนการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างประกาศข้างต้น โดยได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์
ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=908 ผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์
หรือทาง e-mail slil@sec.or.th หรือsireetho@sec.or.th
จนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2566