​​​​​​ผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุน​

ตราสารหนี้ คือตราสารทางการเงินประเภทหนึ่งสามารถเปลี่ยนมือได้ ซึ่งบริษัท (ผู้ออกตราสารหรือลูกหนี้) ออกให้กับ ผู้ให้ยืม (ผู้ซื้อตราสารหรือเจ้าหนี้) เพื่อแสดงสิทธิที่จะได้รับคืนเงินต้นหรือผลประโยชน์อื่น (ดอกเบี้ย) โดยชื่อเรียกของตราสารหนี้ แตกต่างกันไปขึ้นประเภทของตราสารหนี้ อายุ และผู้ออก เช่น ถ้ารัฐบาลออกตราสารหนี้ระยะสั้นจะเรียกว่า “ตั๋วเงินคลัง" ถ้าออกตราสารหนี้ระยะยาวเรียกว่า “พันธบัตรรัฐบาล" และถ้าเอกชนออกตราสารหนี้ที่อายุไม่เกิน 270 วัน เรียกว่า “หุ้นกู้ระยะสั้น" หรือ “ตั๋วเงินระยะสั้น" ถ้าออกตราสารหนี้ระยะยาวเรียกว่า “หุ้นกู้"  

เมื่อผู้ลงทุนซื้อตราสารหนี้ก็เท่ากับให้ผู้ออกตราสารยืมเงิน ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยรับตามเงื่อนไขของตราสาร  อย่างไรก็ดี หากผู้ลงทุนต้องการขายตราสารหนี้ที่ถืออยู่ ก็อาจขายไม่ได้ในทันที หรือขายไม่ได้ในราคาที่ต้องการ เนื่องจากตราสารหนี้แต่ละตัวอาจมีการสภาพคล่องน้อย ทำให้เปลี่ยนมือได้ยาก​

Infographic เพิ่มเติม

• เกณฑ์การเสนอขายตราสารหนี้ (เริ่มใช้ 1 เม.ย. 2561)

• 5 จุดเด่น Factsheet ตราสารหนี้ใหม่ (เริ่มใช้ 1 ม.ค. 2564)

• คำถามก่อนซื้อหุ้นกู้

• ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหุ้นกู้

• ซื้อหุ้นกู้ต้องดู Credit Rating

• หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual / Perpetual Subordinated Bond)​

• ​FED ขึ้นดอกเบี้ยอาจส่งผลต่อการลงทุนของเรา (บางส่วน) อย่างไร?​​
  

​

---

​​​

• ​​​​เกณฑ์การเสนอขายตราสารหนี้ ( เริ่มใช้ 1 เม.ย. 2561 )

​

• 5 จุดเด่น Factsheet ตราสารหนี้ใหม่ ( เริ่มใช้ 1 ม.ค. 2564 )

​

​

 

​

• คำถามก่อนซื้อหุ้นกู้​

​​​

• ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหุ้นกู้

• ซื้อหุ้นกู้ต้องดู Credit Rating

• หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual / Perpetual Subordinated Bond)​

• FED ขึ้นดอกเบี้ยอาจส่งผลต่อการลงทุนของเรา (บางส่วน) อย่างไร?​

​